วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

HBD TO SHARN 2

ตอน2  ;)


บ้านกกกอด ตอนเช้าบรรยากาศสวยมากก อากาศดีจริงๆ ฉันเดินถ่ายรูปไปเรื่อย เพราะไม่มีใครตื่น 55 




เมื่อคืนเกิดเหตุการณ์ หรรษาที่ทำให้เราได้มีโอกาศพูดคุยกับ พี่เชล  และ พี่เบญ เจ้าของบ้านกกกอดมากขึ้น   เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนสูงขึ้น และสูงจนท่วมทางเดินไม้ลวก หน้าห้องพัก จนทำให้สายไฟที่พี่เชล เดินไว้ใต้สะพานไม้ลวกหน้าบ้านใช้การไม่ได้ ไฟดับครัช 555 และยังไม่มีที่ท่าที่น้ำจะหยุดสูง จนดิวบอกว่า เราว่า เอาของออกนอกห้องไปกองไว้ที่ตรงที่นั่งเล่นเหอะ เอาก็เอา เด่วน้ำมาแล้วพวกเราคงขนของไม่ทันแน่ๆ เราก็กิตก็ช่วยกันเก็บของที่ตอนแรกเก็บขึ้นที่สูงแล้วก็ขนออกมา อีกิต  อีกู๋กิตตตต  เดินสะดุดไม้ลวก ตูดจ้ำลงไปน้ำใน 5555 ดีนะทีดิวอยู่ข้างหลัง จับแขนไว้ทัน  ตูดนางเปียกค่ะ และกระเป๋าที่นางถือก็เปียกไปด้วย เสือ้ผ้าเปียก โทรศัพย์เปียกก กรี๊ดดดด พี่เบญรีบเอาข้าวสารใส่ถุงมาให้ใส่โทรศัพย์ โชคดีที่ยังใช้ได้ นางทำหน้าเอ๋อ กลัวพัง  ส่วนแหม่มก็นั่งเม้าส์มอยกะพี่ๆ เพลิน เป้กะเฌอฌานหลับ




พี่ๆเอาพัดลมมาให้อีกสองตัว จากร้อนกลายเป็นหนาว  โชคดีที่ ที่นี่ไม่มียุง แต่ดูเหมือนขนมทั้งสามจะต้องชะตาฟ้าลิขิต กับเป้  ขนมอะไรนะตัวสีดำ  เอาเท้ามาสะกิดเป้ 5555555555 เป้ถาม สะกิดทำไม คือถ้าขนมตอบได้คงบอกว่า ที่กรูค่ะคุณพี่   ขำอ่ะ  พี่เชล กับพี่เบญ ขอโทษที่เกิดเหตุการณ์น้ำขึ้นขนาดนี้ทำให้เราลำบาก ไม่มีที่นอน เพิ่งรู้จากแหม่มตอนกลับว่า พี่เค้าให้บ้านอีกหลังซึ่งเป็นวัยรุ่นสองคน ย้ายไปนอนที่บ้านริมบึง ก่อนเราสักครู่ พี่ๆเลยคงรู้สึกผิดที่ลืมคิดไปว่าเรามีเด็กน้อยมาด้วย  พี่เอาเงินค่าที่พักมาคืนเรา เรากะแหม่มก็เดินหนี บอกว่าไม่เป็นไรค่ะพี่ หนูนอนที่นี่ได้  เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดหรอกค่ะ แกก็ยืนยันว่า เพื่อความสบายใจ ช่วยรับนะคะ   คุยกันนาน กว่าจะตกลงว่า รับได้ค่ะ แต่พวกเราก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหารเช้า เป็นเงินครึ่งนึงนะคะ  ไม่งั้นพวกเราก็ไม่สบายใจเช่นกัน   ต่างคนต่างยิ้ม ที่นี่ก็นั่งคุยกันจนกระทั้งน้ำลง  แต่ว่า ไฟก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดี ก็เลยกลับเข้าไปนอนในห้องทั้งร้อนๆ เงิบๆๆๆๆมาก  ระหว่างที่คุยกัน รับรู้ได้ถึงชีวิตที่มีจุดหมาย และการเคารพ ในความต้องการของตัวเอง ในความสุขของตัวเอง การเป็นตัวของตัวเอง ของพี่เชล พี่เคยเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณา เป็นครีเอทีฟ เป็นคนบ่อพลอย ที่เมืองกาญจนที่แหละ  แกไปๆมาๆตลอด จนค้นพบว่า ชีวิตจริงๆของแกไม่ใช่สังคมเมือง ที่นีคือความสุข ของแก ขับรถมาเจอที่ตรงๆนี้ เลยขอซื้อจากผู้ใหญ่บ้านมาจนได้ ยินดีด้วยเหลือเกินที่พี่พบกับความสุขที่หยั่งยืน 

  


บ้านกกกอด คล้ายๆกับที่ม๊องละวิน ที่สวนผึ้ง เพราะสร้างจากความรักจริงๆ ทุกอย่างพอดี พอควร ไม่มากไป ไม่น้อยไป ค่อยทำ ค่อยคิด มาที่นี่ไม่ได้แค่การพักผ่อน การพักจิตจากชีวิตเมืองหลวง อย่างเดียว แต่มาที่ คุณจะพบกับ ทัศนคติ ดีๆ การนั่งนิ่งๆเพื่อค้นพบว่า ความสุขที่แท้จริงๆของเราคืออะไร  พบกับตัวอย่างของความมุ่งมัน อดทน สู้ และความรัก   เราชอบมากนะ อีกอย่าง รีสอร์ทที่พักหลายๆที่ พอเริ่มติดตลาด คนมากันมากๆๆ มันจะมีปัจจัยเรื่อง เงิน  ความอยากได้อยากมี จะมากขึ้น แต่ที่ บ้านกกกอด ที่นี่ ไม่มีการเอาเปรียบคนที่ต้องการมาพักผ่อน กฏที่ขอร้องผู้เข้าพัก คือ อย่าส่งเสียงดังรบกวนผู้เข้าพักท่านอื่นๆ  ห้ามทำอาหาร  คุณสามารถซื้ออาหารมาทานที่นี่ได้ มีภาชนะให้ยืม และล้างเก็บเข้าที่เดิม เท่านั้นเอง  น่ารักไม๊ล่ะ  ฉันซื้อของที่ระลึกที่พี่เบญทำขาย เย็บเอง คือกางเกงขาก๊วย กลับมาด้วย ราคา250บาท ไม่แพงหรอก ถ้าเทียบกับความตั้งใจของคนทำ เนื้อผ้าก็ดีมาก  ก่อนกลับในตอนเช้า ก็ได้พูดคุยกับพี่เชลและพี่เบญอีกพักใหญ่ถึงแนวทางการดำเนินชีวิต การเลี้ยงลูก  พี่เอ่ยชวนเราให้กลับมาเที่ยวอีก ไปแน่ค่ะ555   เราร่ำลาพี่ทั้งสองและให้คำสัญญาว่า จะกลับมาเที่ยวที่นี่อีก (แน่นอน)



บ้านกกกดอด  กาญจนบุรี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น